EB-3: Employment-Based Immigration-Third Preference

บล็อคนี้ขอมาแปลกนิดนึง แต่ก็มีความเกี่ยวเนื่องกับสถานะนักเรียน F-1 ช่วงหลัง ๆ เราอาจจะได้ยินคนนั้นคนนี้เล่าว่า เค้าหรือคนรู้จักได้สปอนเซอร์ใบเขียวจากเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ร้านอาหาร หรือบริษัทใด ๆ ที่มีกำไรเพียงพอ ขอเรียกเจ้าของกิจการที่สปอนเซอร์ว่า employer ส่วนคนที่ได้รับการสปอนเซอร์ว่า foreign worker ซึ่งอาจจะยังอยู่ที่ประเทศบ้านเกิด หรือว่าได้เข้ามาอยู่ในอเมริกาแล้วอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เช่น เป็นนักเรียนเป็นต้น

เนื่องจากทาง Welbright ดูแลพี่ ๆ น้อง ๆ ที่เป็นนักเรียนอยู่ก็อยากอธิบายถึงขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่การหา employer ไปจนถึงได้รับใบเขียวสำหรับคนที่อยู่ในอเมริกาแล้ว เผื่อว่าโอกาสดี ๆ นี้จะพุ่งมาหาในอนาคตอันใกล้ หรืออาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามในการตามหาโอกาสนั้น ขอให้รักษาสถานะนักเรียนเอาไว้ให้ดี ทำตามกฏของโรงเรียน เพราะว่า EB-3 ไม่สามารถทำได้ถ้าเราอยู่ในอเมริกาไม่ถูกต้องตามกฏหมาย

ว่าแต่ EB-3 คืออะไรกันแน่ มันดียังไง ง่าย ๆ เลยก็คือเป็นเส้นทางหนึ่งที่จะทำให้ foreign worker สามารถเข้ามาทำงานได้ในฐานะ Legal Permanent Residence (LPR) หรือ Green Card หรือใบเขียวที่ใช้กันทั่วไป มันดีกว่า E-2 สำหรับนักลงทุนเพราะว่า E-2 ไม่มีปลายทางเป็นใบเขียว ต้องอยู่เป็น E-2 ไปเรื่อย ๆ แต่ข้อดีของ E-2 ก็คือถ้าเรามีเงินเราก็สมัครได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องมี employer เป็นสปอนเซอร์เหมือน EB-3

ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมัคร EB-3 ได้ เพราะ EB-3 มีข้อกำหนดว่า foreign work จะต้องอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจาก 3 กลุ่มต่อไปนี้

• กลุ่ม A: Skilled Workers: เป็นคนที่มีทักษะ (skills) ที่เหมาะสมกับงานของ employer
• กลุ่ม B: Professionals: เป็นคนที่มีอาชีพเฉพาะ (professional) อย่างเช่น หมอ พยาบาล เป็นต้น
• กลุ่ม C: Other Workers: สำหรับคนที่ไม่เข้าสองกลุ่มแรก ก็อาจจะสมัคร EB-3 ได้ถ้ามี employer ที่พร้อมที่จะสปอนเซอร์งานให้ อย่างเช่น คนทำไร่ คนทำสวน หรือ ทำปศุสัตว์ เป็นต้น

ทีนี้มาดูขั้นตอนกันว่าต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะยื่นสมัครใบเขียว EB-3 ได้

1. Find an Employer หาสปอนเซอร์ หรือ employer ที่จะพร้อมที่จะจ้างงานให้ ขั้นตอนนี้อาจจะเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด เพราะไม่ใช่ว่า employer ทุกคนจะสามารถสปอนเซอร์ได้ หรือเค้าอาจจะไม่อยากที่จะต้องรับภาระเรื่องเงินเดือนที่อาจจะแพงขึ้นจากที่จ้างปัจจุบัน หรือเค้าอาจจะไม่มีผลประกอบการที่มีกำไรเพียงพอ ดังนั้นพยายามสร้าง professional connection เอาไว้ ไม่ว่าจะมีโอกาสทำงานด้วยช่องทางใด ผ่าน CPT หรือ OPT ทำงานให้เต็มที่ ให้เจ้านายไว้วางใจ และให้เจ้านายเห็นว่าเราเหมาะสมกับงานและโอกาสจริง ๆ
2. Labor Certification หรือที่เราเคยได้ยินว่า PERM คือการที่ employer จะต้องให้ Department of Labor เห็นได้ว่าคุณคือคนที่เหมาะสมกับงานที่สุด และไม่สามารถที่จะหาคนอเมริกันหรือคนที่มีใบเขียวแล้วทำงานนี้ได้ ขั้นตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อนเพราะต้องมีการประกาศจ้างงาน และสัมภาษณ์งานจริง ดังนั้นต้องหาทนายที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เพราะขั้นตอนนี้ใช้เวลาเป็นปี ๆ อาจจะสองหรือสามปี ถ้าไม่ได้ PERM ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ เสียทั้งเวลาทั้งเงิน
3. EB-3 Application Filing เมื่อได้ PERM แล้วก็เริ่มการยื่นเรื่องขอใบเขียวกับ USCIS ได้เลย อันนี้สำหรับคนที่อยู่ที่อเมริกาอยู่แล้ว แต่ถ้ายังอยู่ที่ประเทศเกิดก็ต้องรอ priority กันว้าวุ่นก่อนที่จะยื่นเรื่องกับ US Embassyได้ เมื่อยื่นเอกสารเสร็จหลายคนอาจจะคิดว่าเรียบร้อย ผ่าน PERM แล้วไม่น่ามีปัญหา แต่ว่าในความเป็นจริงการได้ PERM มาไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้ใบเขียว มันมีหลายปัจจัยที่ USCIS ใช้ในการพิจารณา USCIS อาจจะมา site visit และทำการพูดคุยกับทั้ง employer และ foreign worker อาจจะครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้ ดังนั้นในทุก ๆ วันที่ทำงานเรายังคงรักษามาตรฐานการทำงานที่ดีเพื่อให้ employer มั่นใจว่าเค้าคิดไม่ผิดและจะได้โน้มน้าวและสนับสนุนกับ USCIS ส่วนตัวของ foreign worker เองก็จะต้องมั่นใจและสามารถอธิบายถึงขอบข่ายของงานได้อย่างฉะฉาน ไม่เช่นนั้น USCIS อาจเกิดความสงสัยได้ว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นการทำหลอกเพื่อที่จะให้ foreign worker ได้ใบเขียว
4. Congratulations! You have got your green card! หลังจาก site visit อาจจะต้องรออีกพักนึงเพื่อให้ USCIS พิจารณา ถ้าทุกอย่างโอเค คุณจะได้รับใบเขียวส่งมาให้ที่ mailbox ที่บ้าน ดังนั้นเตรียมพร้อมด้วยการแปะชื่อของเราให้ชัดเจนที่ mailbox ไม่อย่างนั้นไปรณีย์อาจจะไม่ส่งและตีกลับ นอกจากจะเสียเวลาแล้ว อาจจะต้องเสียเงินเพิ่มเติม ว้าวุ่นสุด ๆ

คร่าว ๆ ก็ตามนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือ สร้างเน็ตเวิร์คเอาไว้ ทำงานของเราให้ดี โอกาสมีให้สำหรับคนขยันและเคารพในงานและหน้าที่ของตัวเอง ขอให้พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนโชคดี แต่ระหว่างที่ยังรอโอกาสอยู่ Welbright เราอยู่เคียงข้างพี่ ๆ น้อง ๆ นักเรียนทุกคน จะย้ายโรงเรียน หรือมีเพื่อน ๆ หรือญาติ ๆ ที่ต้องการจะเปลี่ยนสถานะ ติดต่อเราได้ที่ 224-698-9698 โทรมาหรือส่งข้อความมาได้เลยครับ